DSC_0003RE.jpg

เรื่องเล่าครูบ้านนอกตอนที่3

๓.“บ้านนอกเข้ากรุง กรุงเข้าเมืองหนาว” สะพายเป้ เส้นทางไม่ใช่แค่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ปัญหาในตอนนี้ของฉันก็คือ ฉันต้องเดินทางคนเดียว อันดับแรกคือฉันต้องจองรถจากกรุงเทพไปยังเชียงใหม่ผ่านทางเว็บไซต์บริษัทรถทัวร์ ซึ่งฉันจะต้องไปลงที่จุดนัดพบที่สถานีขนส่งอำเภอฝาง ซึ่งเป็นที่ที่ฉันไม่เคยไป ไม่เคยรู้จักมาก่อน ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันพยายามไล่หาเฟชบุ๊คจากรายชื่อผู้สมัครไปเรื่อยๆ แต่ยากจังไม่พบใครเลย จนฉันเข้าหน้าเว็บเพจกิจกรรมมูลนิธิ ฉันเจอผู้เข้าสมัครโครงการคนหนึ่ง จึงได้ทักทายพูดคุยว่าจะเดินทางยังไงได้บ้าง แล้วเดินทางวันไหน โชคดีที่พี่เขาใจดี รับปากจะจองรถเผื่อฉัน พี่เขาเป็นผู้ชาย ในใจฉันก็กลัว แต่ฉันก็หมดหนทางแล้วจริงๆ ครั้งนี้ไม่ค่อยกล้าเดินทางคนเดียว เลยขอเสี่ยงไปกับพี่เขาแล้วกัน แต่ฉันก็คิดบวกมากในตอนนั้น ฉันคิดว่าคนที่เข้ามาสมัครโครงการนี้ เขาจะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้แน่ๆ ฉันเลยบอกแม่ว่าฉันให้ใครจองรถ ไปยังไง พี่เขาเป็นใคร ในความที่พี่เขาอายุมากกว่าฉันเยอะเลย แม่เลยไม่ค่อยจะกังวลอะไรเท่าไหร่ การจองรถกรุงเทพ-ฝาง ก็ผ่านไปด้วยดี ทีนี้ฉันก็ต้องเตรียมสะพายเป้เข้าเมืองหลวงอีกรอบ กรุงเทพเป็นที่ที่ฉันคุ้นเคยดี เพราะช่วงปิดภาคเรียนฉันขึ้นไปทำกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยต่างๆบ่อยโดยเฉพาะคณะวิทย์ ของมหาวิยาลัยหนึ่งแถวพญาไท  ฉันเข้าออกเป็นว่าเล่น โดยอาศัยป้าเป็นคนขอแม่อีกเช่นเดิม ฉันไปไหนมาไหนได้ดีเยี่ยมเลยแหละในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นมุมไหน ซอกไหน ฉันสามารถนั่งรถไปได้ทุกที และต่อไปนี้ที่ฉันจะเล่ามันเป็นความจริงคือ ฉันไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ในบ้านตัวเอง ถ้าถามว่าที่นี่ที่ไหน ตรงนี้ไปยังไง ฉันไม่สามารถตอบได้ เพราะฉันไปไม่ถูกเลยสักที่ พูดง่ายๆว่าฉันหลงในจังหวัดตัวเอง 555 และไม่นานฉันก็จองรถจากบ้านฉันขึ้นกรุงเทพเพื่อไปปักหลักอยู่ที่นั้นสองสามวันก่อนจะเดินทางไปเชียงใหม่ ฉันมีความจริงจะบอกในทุกๆครั้งที่ฉันขึ้นรถไปกรุงเทพฉันมักจะน้ำตาซึมตอนที่พ่อแม่และน้องยืนโบกมือ อยู่ข้างนอกรถ […]

rr33.jpg

เรื่องเล่าครูบ้านนอก ตอนที่2

๒.“ความกล้า ภายในใจ” ความกล้าหาญ   บ้านเมืองทุกวันมีข่าวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่าวสังคมบ้าง ข่าวการเมืองเอย ข่าวบันเทิงก็มี แต่ข่าวที่ ไม่ดีสำหรับฉันเลย คือข่าวก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉันไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ต้องการอะไร ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ฉันไม่รู้แม้กระทั้งเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่ฉันอยากจะถามพวกเขาว่า คุณ ฆ่า ครู ฉันทำไม …..?? ฉันรู้ว่าเด็กที่นั่นก็อยากถามแบบฉันเช่นกัน ตอน6 ขวบ ฉันยอมรับว่าฉันยังเด็กมากในตอนนั้น แต่ตอนนี้ฉันก็อายุสองหลักแล้ว ฉันวางแผนชีวิตไว้ดิบดี วางอนาคตเอาไว้เสร็จสรรพ แรกๆฉันก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าฉันอยากจะเรียนต่อในสายอาชีพครู แต่สุดท้ายไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจฉันให้อยากเรียนครู คงเป็นเพราะฉันเข้าใจความรู้สึกของครูว่า เมื่อตนมีศิษย์ไม่ใช่เกิดแค่ความภูมิใจแต่เรายังเหมือนมีลูก มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเด็กๆมากมายมหาศาล ที่พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครไม่รู้มาอยู่ในกำมือเรา และยิ้มได้ในวันที่พายเรือพาศิษย์ส่งถึงฝั่งอย่างที่ตั้งใจ คงเป็นเพราะฉันเข้าใจเด็กว่า มีเด็กกลุ่มหนึ่งต้องการ ครู รอคอย ครู เพื่อที่เขาจะได้รับความรู้ ได้รับวิชามาต่อยอดชีวิต ซึ่งน่าเศร้าที่เด็กลุ่มนั้นไม่ได้เรียนเพราะมีแค่ไม่กี่เหตุผล คือไม่มีครู และไม่มีเงิน ฉันวางแผนชีวิตว่าฉันต้องไปสอบคณะครุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ปัตตานีให้ได้ และเมื่อเรียนจบฉันต้องไปสอนที่ไหนสักทีที่มันกันดานจริงๆ ไม่มีครูเข้าถึงมานาน ฉันตั้งเอาไว้สองที่หลักๆคือบนดอย และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉันคิดไว้ตลอดว่าฉันจะขอเป็นครูอุทิศตนสอนเด็กที่ๆไม่มีโอกาส แม้ไม่มีเงินเดือนก็ยอม ในตอนนั้นยอมรับว่า ภาพที่ฉันร่างเอาไว้ ฉันลืมใส่อะไรบางอย่างลงไป….ฉันลืมนึกถึงครอบครัวของฉัน ….. […]

DSC_0276.jpg

ครูอาสาที่ราไวย์ จาก สัญจร 23

  “ ครูๆไปเล่นบอลกันครู” เสียงจากเด็กๆกลุ่มหนึ่งที่กำลังวิ่งซุกซนอยู่ริมชายหาดบ้านราไวย์ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองไทย    ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุริมชายทะเลอันดามัน เราหลายคนกำลังเดินชมวิวทิวทัดริมหาดราไวย์โดยมีเด็กๆในชุมชนวิ่งเล่นซุกซนอยู่เป็นกลุ่มๆในบริเวณใกล้ๆกัน โดยเด็กๆเหล่านั้นพยามชักชวนให้เราร่วมสนุกกับพวกเขาด้วย ทั้งๆที่เราก็เป็นแค่คนนอกที่เพิ่งเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ แต่เด็กๆก็ยินดีต้อนรับเราอย่างอบอุ่นและเรียกเราว่า “ครู” อย่างเต็มอกเต็มใจ   วันศุกร์ต้นเดือนเมษายน เดือนที่ขึ้นชื่อว่าร้อนที่สุดแห่งบ้านเมืองนี้ ได้มีคนจำนวนหนึ่งเดินทางจากหลากหลายสถานที่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย มารวมตัวกันอยู่ที่ บ้านราไวย์ จังหวัดภูเก็ต เขาเหล่านั้นบางคนเคยรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลยรวมถึงอาจเป็นครั้งแรกของบางคนด้วยซ้ำที่ได้มาเยือนไข่มุกอันดามัน เขาทั้งหลายมุ่งหน้าสู่อันดามันในครั้งนี้ใช่เพื่อมาชมความงดงามของชายหาดหรือหมู่เกาะทั้งหลายเหล่าใด แต่คนเหล่านี้เดินทางมาด้วยเป้าหมายเดียวกัน เป้าหมายที่ใครหลายคนอาจไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ทำมันในครั้งหนึ่งของชีวิต นั่นคือการมาเป็นครูอาสา ในนามที่เรียกขานกันว่า “ครูบ้านนอก”   หลังจากการมาถึงภูเก็ตของเหล่าครูบ้านนอก ทุกคนก็ถูกนำมารวมกัน ณ ที่พักริมทะเลแห่งหนึ่งเพื่อแจ้งลำดับกิจกรรมและแบ่งกลุ่มครูอาสาตลอดถึงการรับประทานมื้อเที่ยงพร้อมๆกันก่อนเดินทางสู่หาดราไวย์ในยามบ่ายแก่ๆ เราออกเดินทางสู่หาดราไวย์กันด้วยรถส่วนตัวและรถโดยสารที่ทางทีมงานเหมากันไว้โดยมีครูอาสาโดยสารกันไปร่วมสามสิบชีวิต ในระหว่างเดินทางครูอาสาหลายคนก็เริ่มทำความรู้จักมักคุ้นกันตามอัธยาศัยและบางคนก็หันซ้ายแลขวาชมความเจริญของสองข้างทาง รวมทั้งหลายคนก็คงจะตื่นเต้นกับการที่จะได้เป็นครูครั้งแรกในชีวิต ถึงแม้ว่ามันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม    เมื่อมาถึงหาดราไวย์เราทุกคนก็ได้นั่งล้อมวงกันใต้ต้นมะขามริมหาดราไวย์เพื่อรับฟังข้อมูลพื้นฐานและปัญหาต่างๆของชุมชนจากเจ้าหน้าที่ผู้ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ หลังจากนั้นเราทุกคนก็ถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆเพื่อเข้าพักในที่พักซึ่งเป็นบ้านของพี่น้องชาวบ้านซึ่งเป็น ชาวเล๑ กลุ่มอูรักราโว้ย๒ ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่กันอย่างหนาแน่นในพื้นที่จำกัด โดยแต่ละบ้านจะมีครูอาสาเข้าพักบ้านละ ๒-๖ คน ตามแต่ขนาดของบ้านที่เข้าพัก โดยครูอาสาทุกคนที่เข้าไปอยู่ในบ้านก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีได้รับการดูแลดุจลูกหลาน    หลังจากนำข้าวของเสื้อผ้าเข้าสู่ที่พักและทำความรู้จักกับเจ้าของบ้านเรียบร้อยแล้วเราทุกคนก็เดินกลับมารวมกันที่ใต้ต้นมะขามซึ่งเปรียบดั่งศูนย์กลางของค่าย โดยที่จะมีการประชุมงาน ทานอาหาร นั่งพูดคุยหยอกล้อกัน […]

1507808_570006129818835_4398904305255919166_n-1.jpg

ความรู้สึกของฉัน

การก้าวเดินออกจากบ้านอีกครั้ง ต่างจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่ออกจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี การเดินทางครั้งนั้นให้ความรู้สึกต่างกันกับการมาที่กระจกเงามาก  การออกจากบ้านครั้งนี้ด้วยความหวังและภาพในความคิดที่เคยเห็นในละคร โดยการมีครูที่มีจิตใจอาสา ขึ้นไปสอนหนังสือเด็กๆชาวเขาที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา หรืออาจจะขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน ภาพเหล่านี้ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอมา และก็ยังมีความตั้งใจที่จะหาโอกาสสักครั้งในชีวิตที่จะได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนสังคม และเพื่อนมนุษย์บ้าง การเดินทางมาที่กระจกเงาจึงเป็นการมาเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง นอกเหนือไปจากการสหกิจศึกษาเพื่อจบการศึกษา หวังการพัฒนาตัวเองในการกล้าแสดงออก การพูดต่อหน้าคนเยอะๆที่จะประหม่าทุกครั้งที่ทำ ไม่ใช่แค่งานเอกสาร ไม่ใช่แค่งานในสำนักงาน แต่ต้องการทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์           งานแรกที่ได้เข้าร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาคือ มหกรรมวันเด็ก ตั้งแต่การเตรียมงาน จัดของขวัญเป็นชุดให้กับเด็ก ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย มาจากหลากหลายภาคของประเทศ รวมไปถึงยังมีอาสาสมัครต่างชาติ ที่เข้ามาช่วยกันจัดงานวันเด็ก ในบทบาทของนักศึกษาฝึกงานมีหน้าที่ช่วยงานพี่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิทุกงานเท่าที่จะสามารถช่วยได้ แต่ละคนก็จะแยกกันไปทำงานที่ตัวเองถนัด ทุกงานที่ทำต้องลงแรงอย่างมาก ทุกคนเหนื่อยแต่สิ่งที่ทำมันก็ประสบความสำเร็จ ทุกคนที่นี่มีความสุขที่ได้ทำเพื่อเด็กๆโดยไม่หวังผลตอบแทน การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มกับเพื่อนที่ไม่เคยรู้จัก ปรับตัวเพื่อสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เราไม่รู้นิสัย การที่จะพูดเล่นหยอกล้อกันก็จะเป็นที่จะต้องระวังคำพูด เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ โดยรวมแล้วรู้สึกดีมากๆที่ได้มาอยู่ที่นี่

IMG_7684.jpg

เด็กเอ๋ย…ครูจะไปหาฉัน

…รับมอบหมายให้อาสาฟรีสคูล                      ที่เกื้อกูลเด็กเด็กโอกาสหาย ทำงานด้วยแรงใจพลังกาย                            แม้มลายไม่สูญสิ้นธารน้ำใจ แดดอ่อนอ่อนพร้อมสู่การเดินทาง                อ้างว้างมีเพื่อนมาสุขสดใส รถออกแล่นกระจกเงาสู่แดนไกล                    สุขรำไรลอยมาตามสายลม …ถึงที่แรกห้วยศาลามาหาน้อง                       เด็กแซ่ซ้องเรียกว่าครูไม่ขื่นขม แจกของขวัญให้น้องได้ชื่นชม         […]

12659614_958597414217534_1170293225_n.jpg

วันเด็ก1+1สัญจรกับเรื่องราวความสุขที่ถูกเก็บเกี่ยว

ทุกครั้งที่ออกเดินทางไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือไปกับใคร สำหรับตัวฉันแล้วคิดว่าระหว่างทางย่อมมีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้และมักจะมีความสุขเล็กๆให้เราได้จดจำอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพื่อนๆนักศึกษาฝึกงานผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้  :)           แสงแดดอ่อนๆยามเช้ากับลมหนาวและสายหมอกที่ปกคลุมทั่วพื้นที่ของมูลนิธิกระจกเงา  เหล่าซานต้าและแซนตี้เตรียมตัวออกเดินทางไปมอบความสุข  เสียงหัวเราะให้กับเด็กน้อยในพื้นที่ห่างไกล  เป็นการเดินทางอีกครั้งของเหล่านักศึกษาฝึกงานและพีๆเจ้าหน้าที่ ของขวัญและรอยยิ้มที่พร้อมจะไปมอบให้แก่เด็กๆเต็มรถกระบะ..           การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น  แต่ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะไม่ใช่สำหรับคนที่เมารถเช่นฉันและนุช  เราแบ่งกันเป็นสองทีมกับของขวัญและรอยยิ้มที่พร้อมจะไปมอบให้เต็มรถกระบะ  เราเดินทางกันมาเรื่อยๆประมาณ  3 ชั่วโมง  และแล้วก็มาถึงที่แรกนั่นก็คือ โรงเรียนห้วยศาลา  เริ่มจากการให้เด็กยืนเป็นวงกลมแล้วชวนกันสันทนาการ  เล่นเกมส์  และให้เด็กๆเลือกของขวัญที่ตัวเองอยากได้  หลังจากเสร็จกิจกรรมฉันก็มีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณครูเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเด็กที่นี่  เรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ชื่อสิงห์  เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาแยกทางกัน  ตอนนี้อาศัยอยู่กับย่าแล้วโดนย่าขังไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน  ไม่ให้พบเจอหรือพูดคุยกับใคร  คุณครูไปเจอตอนเกิดเรื่องที่ไปเอาสิงห์มาเลี้ยง  เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กกลายเป็นคนไม่กล้าแสดงออกและค่อยข้างจะหวาดระแวง  คุณครูเล่าว่าเขาเป็นเด็กที่ถ้าโดนกระทบความรู้สึกไม่ว่าจะเล็กๆน้อยๆก็จะน้อยใจและไม่มีให้ง้อได้นอกจากคุณครู      เมื่อได้ฟังเรื่องราวของสิงห์เด็กน้อยคนนี้ฉันรู้สึกสงสาร  แต่คงทำได้เพียงแค่บอกให้คุณครูช่วยดูแลสิงห์เป็นพิเศษ.. พี่สายลมชวนเด็กๆยืนเป็นวงกลมเพื่อเตรียมตัวสันทนาการ..                        […]

DSC_0546.jpg

ทำไมถึงเลือกมาสหกิจศึกษาที่มูลนิธิกระจกเงา?

         สวัสดีครับ ผมชื่อ นายอับดุลฮากีม เซะแง นักศึกษาสหกิจศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี มูลนิธิกระจกเงาเป็นที่ที่ผมอยากมาสหกิจศึกษาเป็นอย่างมากด้วยเหตุผลก็คือมันตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงรายอยู่ภาคเหนือของประเทศ อีกอย่างก็มีรุ่นพี่เคยมาสหกิจที่นี่มาหลายรุ่นเลยได้ถามรูปแบบการฝึกงานคราวๆ รุ่นพี่ก็แนะนำว่าถ้าชอบรูปแบบการทำงานแบบลงพื้นที่แบบลุยๆก็ที่นี่ สนุก สอนอะไรหลายอย่าง รวมถึงผมก็ได้ติดตามการอัตเดพของรุ่นพี่จากการโพสรูปใน facebook ,line ได้เห็นบรรยากาศการลงพื้นที่ บรรยากาศวิวสวยๆจากแหล่งท่องเที่ยว ของภาคเหนือ และผมก็ได้สอบถามเรื่องอาหารการกินของมุสลิม การละหมาดวันศุกร์ว่าเป็นอย่างไร ก็ได้คำตอบว่าพี่ๆที่มูลนิธิเขาใจดีเข้าใจในความแตกต่าง เรื่องการกินสามารถทำอาหารกินได้เอง ส่วนวัตถุดิบขอพี่ๆแม่ครัวได้ ในเรื่องของการละหมาดวันศุกร์(ขออธิบายละหมาดวันศุกร์คือในช่วงเที่ยงของทุกๆวันศุกร์ชายมุสลิมต้องไปละหมาดที่มัสยิด) รุ่นพี่บอกว่าสามารถขอลาช่วงนั้นขับรถไปละหมาดที่มัสยิดได้ตามปกติเพราะพี่ๆเขาเข้าใจและเราต้องอธิบายให้เข้าใจ ด้วยสิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมอยากมาสหกิจที่นี่ เนื่องด้วยเราสามารถคลายความกังวลกับปัญหาที่เรากังวลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินก็ดี การออกไปละหมาดวันศุกร์ก็ดี รวมกับการที่เราอยากมาลองสัมผัสกับอากาศหนาวให้ช่วงต้นปีและเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจากบ้านมาก มีประเพณีวัฒนธรรมที่ต่างกัน สังคมที่ต่างกัน ภาษาการสื่อสารที่ต่างกัน สิ่งเหล่าเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับผมเป็นอย่างยิ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจมาอยู่มูลนิธิกระจกเงา ผมกับเพื่อนๆประมาณห้ามีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าหนึ่งเดือนในการจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมาวันที่6โดยขึ้นเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ลงสนามบินดอนเมืองต่อเครื่องจากดอนเมืองมาลงที่เชียงรายและต่อรถแท็กซี่มาถึงที่มูลนิธิ เมื่อถึงที่สนามบินเชียงรายประมาณทุ่มครึ่ง ผมก็ได้สัมผัสถึงลมเย็นๆของอากาศที่นี่เพื่อนที่มาถึงก่อนได้จองแท็กซี่ให้เราขึ้นจากสนามบินถึงเชียงรายขึ้นรถมาเรื่อยๆก็เข้าในเขตตำบลแม่ยาวมาเรื่อยๆยิ่งเข้าชุมชนก็ยิ่งมืดไฟฟ้าบนถนนไม่มีในใจผมก็มีความหวาดระแวง เฮ้ยย!! มาถูกหรือป่าว จนเข้าถึงถนนดินแดงในใจผมก็คิด (มันใช่หรอ) ผมก็ได้ถามคนขับว่า อีกไกลไหมพี่ พี่ตอบว่าจะถึงเห็นป้ายมูลนิธินั้นไหม(ถึงสามแยกเลี้ยวเข้ามูลนิธิพอดี)ผมตอบพี่คนขับไปว่า อ่อครับ(ในใจรู้สึกโล่งอก)เพราะมันเป็นเวลากลางคืนกับที่ที่เราไม่เคยมาไม่รู้จักทาง จนถึงที่มูลนิธิประมาณสองทุ่มก็มีเพื่อนจาก มอ.ปัตตานีที่มาถึงก่อนสองสามวันกับเพื่อนที่ต่างสถาบันสองสามคนมาตอนรับและเตรียมอาหารค่ำให้เราด้วย และเราก็ได้กินอาหารค่ำเป็นอาหารมื้อแรกของที่นี้พร้อมกับอากาศหนาวๆอุณหภูมิประมาณ20องศาซึ่งมันก็หนาวสำหรับผม ในการกินเพื่อนก็ได้บอกกฎระเบียบการใช้ชีวิตที่นี้คราวๆมีการแบ่งเวรช่วยแม่ครัวทำอาหารเช้าและต้องเข้าประชุมเช้าเวลาแปดโมงครึ่งทุกวัน พูดคุยสักพักจากนั้นเพื่อนก็พาไปบ้านพักเป็นบ้านกระท่อมทำจากไม้ไผ่ เช้าวันต่อมาทีมมุสลิมก็มีการทำอาหารร่วมกันจากนั้นก็มีการประชุมเช้าบอกคิวรถและได้มีการแนะนำตัวด้วย […]

sss.jpg

สหกิจศึกษามูลนิธิกระจกเงา . . ^^

อัสสาลามูอาลัยกุม . .  ( สวัสดีค่ะ ) ที่ตัดสินใจเลือกสหกิจศึกษาที่มูลนิธิกระจกเงา จังหวัดเชียงรายแห่งนี้ เพราะมีรุ่นพี่ ( แบฟาริด , แบกีกี้ )แนะนำให้เลือกสหกิจศึกษาที่นี่ สถานที่ที่ให้มากกว่าประสบการณ์ การฝึกฝน เรียนรู้ สู่การเติบโตด้วยตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ อีกอย่างก็ไกลบ้าน มันท้าทายดี อีกทั้งยังวัดอีหม่ามในตัวเราได้อีกด้วย เมื่อตัดสินใจเลือกสหกิจที่มูลนิธิกระจกเงาแล้ว ก็กลับไปขออนุญาตพ่อกับแม่ ท่านสนับสนุนเต็มที่ถ้าเป็นเรื่องการเรียน จากนั้นก็ปรึกษาพี่ๆเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าโครงการเบื้องต้น การจัดเตรียมอุปกรณ์ สัมภาระ เสบียง และสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ต่างๆนานา              แรกๆก่อนเดินทางมาเชียงราย ก็กังวลกับสิ่งที่ต้องเผชิญ เพราะอยู่ไกลจากบ้านมาก สภาพอากาศก็ต่างจากบ้าน สถานที่ที่หลากหลายวัฒนธรรม แต่แล้วพอมาถึงเชียงราย เดินทางสู่มูลนิธิ เวลาประมาณ 2 ทุ่มก็ตกใจเล็กน้อยกับเส้นทางและป้ายบอกทางเข้ามูลนิธิ และตกใจอีกครั้งเมื่อเพื่อนจาก มอ.ปัตตานีมารอรับไปยังที่พัก ( บ้านกระท่อม ) อิอิ วันนั้นที่มาถึงก็ยังไม่ชินกับสถานที่ สภาพอากาศที่หนาวมาก พลอยทำให้คืนนั้นนอนไม่หลับอีกด้วย […]

วันเด็ก1+1สัญจรกับเรื่องราวความสุขที่ถูกเก็บเกี่ยว

          ทุกครั้งที่ออกเดินทางไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือไปกับใคร สำหรับตัวฉันแล้วคิดว่าระหว่างทางย่อมมีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้และมักจะมีความสุขเล็กๆให้เราได้จดจำอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพื่อนๆนักศึกษาฝึกงานผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้  :)           แสงแดดอ่อนๆยามเช้ากับลมหนาวและสายหมอกที่ปกคลุมทั่วพื้นที่ของมูลนิธิกระจกเงา        เหล่าซานต้าและแซนตี้เตรียมตัวออกเดินทางไปมอบความสุข  เสียงหัวเราะให้กับเด็กน้อยในพื้นที่ห่างไกล  เป็นการเดินทางอีกครั้งของเหล่านักศึกษาฝึกงานและพี่เจ้าหน้าที่ ของขวัญและรอยยิ้มที่พร้อมจะไปมอบให้แก่เด็กๆเต็มรถกระบะ..           การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น  แต่ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะไม่ใช่สำหรับคนที่เมารถเช่นฉันและนุช  เราแบ่งกันเป็นสองทีมกับของขวัญและรอยยิ้มที่พร้อมจะไปมอบให้เต็มรถกระบะ  เราเดินทางกันมาเรื่อยๆประมาณ  3 ชั่วโมง  และแล้วก็มาถึงที่แรกนั่นก็คือ โรงเรียนห้วยศาลา  เริ่มจากการให้เด็กยืนเป็นวงกลมแล้วชวนกันสันทนาการ  เล่นเกมส์  และให้เด็กๆเลือกของขวัญที่ตัวเองอยากได้  หลังจากเสร็จกิจกรรมมีโอกาสได้นั่งคุยกับคุณครูเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเด็กที่นี่  เรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ชื่อสิงห์  เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาแยกทางกัน  ตอนนี้อาศัยอยู่กับย่าแล้วโดนย่าขังไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน  ไม่ให้พบเจอหรือพูดคุยกับใคร  คุณครูไปเจอตอนเกิดเรื่องที่ไปเอาสิงห์มาเลี้ยง  เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กกลายเป็นคนไม่กล้าแสดงออกและค่อยข้างจะหวาดระแวง  คุณครูเล่าว่าเขาเป็นเด็กที่ถ้าโดนกระทบความรู้สึกไม่ว่าจะเล็กๆน้อยๆก็จะน้อยใจและไม่มีให้ง้อได้นอกจากคุณครู  เมื่อได้ฟังเรื่องราวของสิงห์เด็กน้อยคนนี้ฉันรู้สึกสงสาร      แต่คงทำได้เพียงแค่บอกให้คุณครูช่วยดูแลสิงห์เป็นพิเศษ.. พี่สายลมชวนเด็กๆยืนเป็นวงกลมเพื่อเตรียมตัวสันทนาการ..                 […]

2.jpg

อุบัติทวิการณ์ชีวิตครูบ้านนอก

มูลนิธิกระจกเงา เป็นส่วนเติมเต็มของการศึกษาในพื้นที่ด้อยโอกาสและให้กับจิตอาสาด้วย เพราะการศึกษา คือ ‘บวร’ แปลว่า ความเจริญรุ่งเรื่อง ตามคำโบราณเป็นการย่อจากคำว่า ‘บ้าน วัด โรงเรียน’ กล่าวคือ การพัฒนาหรือสร้างคนจะเริ่มต้นที่บ้าน วัด และโรงเรียน มูลนิธิกระจกเงาเปรียบเสมือนทั้ง ‘บ้านกระจกเงา วัดกระจกเงา โรงเรียนกระจกเงา’ ที่จะขจัดความไม่เสมอภาคในโอกาส บ่มเพาะคุณธรรม และสร้างคุณภาพของการศึกษาให้ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา

DSC03348.jpg

ประสบการณ์ครูดอย

การเดินทางที่มีเส้นทางยาวไกล ได้สร้างมิตรภาพ ความสัมพันธ์ และความผูกพันระหว่างกันขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพจากรายทางที่เราพบผ่าน หรือมิตรภาพที่มาจากเพื่อนร่วมทางที่ก้าวเดินไปด้วยกัน การเดินทางสู่ดินแดนแห่งขุนเขาที่แสนห่างไกลไร้สิ่งอำนวยความสะดวกในครั้งนี้ก็เช่นกัน.. การช่วยเหลือแบ่งปัน เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้คนจำนวนหนึ่งได้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เดียวกัน มีความตั้งใจอย่างเดียวกันคือเพื่อที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้อยู่ที่ “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัตถ์ปิยะอุย สาขาบ้านห้วยกุ๊ก” ตั้งอยู่ในตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย การเดินทางสู่จังหวัด เชียงรายในครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งที่ไกลที่สุดสำหรับตัวเรา ตัวเราเองก็ตื่นเต้นกับการเดินทางที่ยาวไกลครั้งนี้มาก ทั้งความมุ่งมั่น ระยะทาง สถานที่ และการรอคอยที่รอมานานหลายเดือน ทุกอย่างหลอมรวมกันจนทำให้เราอดคิดในใจไม่ได้ว่า การเดินทางไปเป็นครูบนดอยในครั้งนี้มันจะต้องเป็นการเดินทางที่ดี และมีเรื่องราวที่พิเศษมากๆ กำลังรอเราอยู่แน่ๆ เวลา 11 ชั่วโมงบนรถทัวร์ ได้ร่นความห่างของระยะทางระหว่างกรุงเทพมหานครและเชียงรายให้สั้นลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่ลดลง เวลาเกือบครึ่งหนึ่งเราใช้ไปกับการคิดถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ ชั่วโมงข้างหน้า.. หลังจากที่ก้าวลงจากรถแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง คนที่มีปลายทางเดียวกันกับเราจะเป็นอย่างไรกันนะ พวกเราจะเข้ากันได้ดีใช่ไหม เด็กๆ บนดอยจะดื้อ และซนเท่าเด็กในเมืองหรือเปล่า… เหล่านี้คิอสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ 19 ชีวิตของครูอาสาในครั้งนี้ รวมครูจะเด็จและครูต้นซุงด้วยก็เป็น 21 ชีวิต มาพร้อมกันแล้วในตัวเมืองเชียงราย และพร้อมที่จะมุ่งหน้าสู่โรงเรียนบนดอย จากจุดนี้ไปถึงโรงเรียนเป็นระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร รถตู้ 1 คัน […]