ความรู้สึกของฉัน

การก้าวเดินออกจากบ้านอีกครั้ง ต่างจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่ออกจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี การเดินทางครั้งนั้นให้ความรู้สึกต่างกันกับการมาที่กระจกเงามาก  การออกจากบ้านครั้งนี้ด้วยความหวังและภาพในความคิดที่เคยเห็นในละคร โดยการมีครูที่มีจิตใจอาสา ขึ้นไปสอนหนังสือเด็กๆชาวเขาที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา หรืออาจจะขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน ภาพเหล่านี้ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอมา และก็ยังมีความตั้งใจที่จะหาโอกาสสักครั้งในชีวิตที่จะได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนสังคม และเพื่อนมนุษย์บ้าง การเดินทางมาที่กระจกเงาจึงเป็นการมาเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง นอกเหนือไปจากการสหกิจศึกษาเพื่อจบการศึกษา หวังการพัฒนาตัวเองในการกล้าแสดงออก การพูดต่อหน้าคนเยอะๆที่จะประหม่าทุกครั้งที่ทำ ไม่ใช่แค่งานเอกสาร ไม่ใช่แค่งานในสำนักงาน แต่ต้องการทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์

12507462_571847689634679_3213462596970952621_n (1)          งานแรกที่ได้เข้าร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาคือ มหกรรมวันเด็ก ตั้งแต่การเตรียมงาน จัดของขวัญเป็นชุดให้กับเด็ก ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย มาจากหลากหลายภาคของประเทศ รวมไปถึงยังมีอาสาสมัครต่างชาติ ที่เข้ามาช่วยกันจัดงานวันเด็ก ในบทบาทของนักศึกษาฝึกงานมีหน้าที่ช่วยงานพี่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิทุกงานเท่าที่จะสามารถช่วยได้ แต่ละคนก็จะแยกกันไปทำงานที่ตัวเองถนัด ทุกงานที่ทำต้องลงแรงอย่างมาก ทุกคนเหนื่อยแต่สิ่งที่ทำมันก็ประสบความสำเร็จ ทุกคนที่นี่มีความสุขที่ได้ทำเพื่อเด็กๆโดยไม่หวังผลตอบแทน การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มกับเพื่อนที่ไม่เคยรู้จัก ปรับตัวเพื่อสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เราไม่รู้นิสัย การที่จะพูดเล่นหยอกล้อกันก็จะเป็นที่จะต้องระวังคำพูด เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ โดยรวมแล้วรู้สึกดีมากๆที่ได้มาอยู่ที่นี่

Leave a Reply

scroll to top