มูลนิธิกระจกเงา  สำนักงานเชียงราย  เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ตั้งอยู่ ในพื้นที่บ้านห้วยขม ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย มีพื้นที่ปฏิบัติการครอบคลุมในเขต ตำบลแม่ยาว ซึ่งมี18 หมู่บ้านหลัก 12 โรงเรียนและ 3โรงเรียนสาขา โดยเน้นไปในทางการ ทำงานจัดกิจกรรมด้านการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ และเยาวชน รวมไปถึง การช่วยผลักดันส่งเสริมให้คนในชุมชน เกิดการรวมตัวกันขึ้นกลุ่ม  เพื่อที่นำไปสู่ความเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง  อีกทั้งช่วยชี้แนะให้พวกเขาเหล่านั้นได้ตระหนัก  และรับรู้ถึงสังคมในปัจจุบันที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

โครงการครูบ้านนอก  เนื่องจากในปัจจุบันของสังคมไทยเรานั้น ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทย  ที่ยังเป็นพื้นที่ๆ ประสบกับความขาดแคลนในด้านต่างๆ ในหลายๆด้าน  ทั้งทางด้านปัจจัยต่างๆ ในการดำรงชีวิต  และทางด้านการศึกษาซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งการขาดแคลนเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหา และภาระให้แก่สังคมไทยเรา  โครงการครูบ้านนอกได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้  ฉะนั้นโครงการครูบ้านนอกจึงได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางสังคมเหล่านี้  

โครงการครูบ้านนอก   จะมุ่งเน้นไปในการที่จะช่วยกันระดมกลุ่มคนซึ่งอยู่ในมุมต่างๆ ของสังคมที่มีโอกาสดีกว่าพวกเขาเหล่านั้น  มาเป็น “อาสาสมัคร”  เพื่อให้ได้เข้ามาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมที่จะช่วยกันพัฒนาชุมชนชนบทในพื้นที่เหล่านั้น  อาสาสมัครเหล่านี้ซึ่งนอกจากจะได้ร่วมกันทำประโยชน์ต่อชาวบ้านแล้ว  พวกเขาก็ยังได้จะได้รับประโยชน์จากการเข้ามีส่วนร่วมอีกมากมา กล่าวคือจะปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี  มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น  ช่วยกันแบ่งปันสิ่งที่ดีๆ มีความสมานสามัคคี  มีจิตใจที่เป็นความเป็น “จิตอาสา  ความเป็นคนอาสา ”  กล่าวคือเป็นผู้ที่คิดที่จะเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน 

ด้วยเหตุนี้ทางโครงการจะจัดให้อาสาสมัครเหล่านั้น ได้เข้าไปใช้ชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกันชาวบ้าน ไปขออาศัยพักพิงในบ้านของชาวบ้าน  ได้มีกิจกรรมร่วมต่างๆ ร่วมกับชาวบ้านที่นั้น  โดยจะให้ความสำคัญเน้นหนักไปในกลุ่มของเด็กๆ และเยาชน  โดยจะให้มีการใช้ชีวิตอยู่กับเด็กๆ และชาวบ้านชาวเขาที่นั้น  เพื่อจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านของแต่ละชนเผ่าที่มีสืบเนื่องกันมาช้านาน ได้ศึกษาวิถีชีวิต  สภาพความเป็นอยู่ จากการที่อาสาสมัครเหล่านั้นได้เข้าไปพักพิงอาศัยอยู่นั่นเอง  และในขณะเดียวกันก็สร้างสัมพันธ์ ความสมานสามัคคีกันขึ้นระหว่างชาวบ้านกับอาสาสมัครเหล่านั้นด้วย และอีกกิจกรรมหนึ่งนั้น “ ครูบ้านนอก ”  จะได้เข้ามาทำหน้าที่เป็น “ ครู ”  ให้กับเด็กๆ     โดยครูบ้านนอกจะนำความรู้ที่ตนมีเข้าไปสอนเด็กๆ เหล่านั้นที่ด้อยการศึกษา เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเด็กๆ และช่วยชี้ให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของการศึกษา อีกทั้งยังเป็นการร่วมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุก และมีสีสันให้เด็กๆ รู้สึกสนุกไปกับการศึกษา มีการร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการศึกษาของเด็กๆ  และมาช่วยเพิ่มให้กำลังใจคุณครูที่ประจำอยู่ที่นั้นว่ายังมีคนที่มีจิตใจอาสาเช่นเดียวกับพวกเค้าอยู่อีกทางหนึ่ง  ขณะเดียวกัน ครูบ้านนอกเองก็จะได้เรียนรู้ถึงปัญหาในด้านการศึกษาของเด็กเหล่านั้นว่ายังมีเด็กๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดแคลนด้านการศึกษา   ซึ่งถ้าสังคมเรานั้นมีคนที่มีจิตใจอาสา  ก็จะเป็นการช่วยลดปัญหาการก่อปัญหาให้กับสังคมได้   อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างบุคคลที่ดีออกไปสู่ในสังคมทำให้สังคมน่าอยู่ได้อีกทางหนึ่งด้วยซึ่งในโครงการครูบ้านนอกนั้นจะจัดให้คนอาสาเหล่านั้นมีการลงไปพัฒนายังพื้นที่ต่างๆ  โดยเริ่มจะจากพัฒนากลุ่มชาวบ้านในตำบลแม่ยาว  และจะพัฒนาขยายออกไปไปยังกลุ่มชาวบ้านในตำบลอื่นๆ  ซึ่งกลุ่มชาวบ้านเหล่านั้น  เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “ชาวเขา” นั่นเอง  ซึ่งกลุ่มชาวเขาก็จะประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆหลายเผ่า อาทิเช่นเช่น  ชนเผ่าอาข่า ( อีก้อ )  ชนเผ่าลาหู่  ( มูเซอ )  ชนเผ่าปกากญอ(กะเหรี่ยง  ) ชนเผ่าเย้า (เมี่ยน)  เป็นต้น  ซึ่งในแต่ละชนเผ่าก็จะมีการใช้ภาษา และวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นเป็นของตัวเองต่างๆกันไป  และจะมีการใช้ภาษาไทยเป็น “ภาษาที่สอง”

เพื่อได้ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศของเรามากน้อยเพียงใด  และนำไปสู่แนวทางในการคิดที่จะช่วยกัน และให้ความร่วมมือกันที่จะพัฒนาการศึกษาของเด็กๆ ที่ด้วยโอกาสเหล่านี้ให้มีการพัฒนามากขึ้นอีกด้วย

                โครงการครูบ้านนอก เป็นโครงการที่มูลนิธิกระจกเงา ดำเนินงานในช่วงต้น ๆ  โดยโครงการครูบ้านนอกเป็นโครงการที่เปิดรับบุคคลที่สนใจงานอาสาสมัคร เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศ  ซึ่งทางมูลนิธิได้ดำเนินการมาแล้ว 100  กว่ารุ่น  และมีอาสาสมัครเข้ามาร่วมโครงการหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานราชการ  คนทำงานบริษัทฯ  นิสิต นักศึกษา  ทั่วประเทศ มาร่วมกันอาสาขอเป็นครูบ้านนอก  โดยมีอาสาสมัครที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 6 ขวบ  และ อายุมากที่สุด 67 ปี  ในแต่ละรุ่นจะมีอาสาสมัครเข้ามาร่วมงานครูบ้านนอกโดยประมาณ 30 คน ต่อรุ่น    หลังจากที่โครงการครูบ้านนอกได้ดำเนินงานมาระยะหนึ่ง   กลุ่มเป้าหมายในการดำเนินงานได้ขยายวงกว้างขึ้น ได้รับความสนใจจากมหาวิทยาลัย ต่าง  ๆ  ให้ทางโครงการครูบ้านนอกจัดกระบวนการ ให้นิสิต นักศึกษา มาเรียนรู้ประสบการณ์ตรง  เพื่อยกระดับจิตใจ ให้นิสิต นักศึกษา  เกิดการรวมกลุ่มกันทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคมต่อไป

สำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่  ที่ทางโครงการครูบ้านนอก   กำลังดำเนินการพัฒนาต่อยอดจากอาสาสมัครทั่วไป คือ บริษัทรัฐวิสาหกิจ ต่างๆ  ที่มีบุคลากรโดยหลักจะนั่งทำงานประจำ คือทำงานตังแต่วันจันทร์ – วันศุกร์  โดยทางโครงการครูบ้านนอกมองว่า กลุ่มเป้าหมายนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าให้สนใจมาก กล่าวคือมีที่มาจากหลาย ๆ สาเหตุหลายๆ อย่างประกอบเข้าด้วยกัน อาทิ ผู้ที่ทำงานรัฐวิสาหกิจนั้น จะมีการทำงานประจำของตัวเองอยู่ซ้ำๆเป็นประจำทุกวันจนอาจทำให้เกิดความเคยชินในการปฎิบัติกิจวัตรประจำวันของตัวเอง  อาทิเช่น  ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาทำงาน  พอตกเย็นก็ตรงกลับบ้านเพื่อรีบกลับไปพักผ่อนเพื่อจะได้ตื่นมาทำงานในเช้าวันต่อๆไป   และในระหว่างการทำงาน  ชีวิตก็ต้องมีแข่งขันอยู่ตลอดเวลา   ทั้งการแข่งขันกับเวลาที่รีบเร่ง  แข่งขันกันตัวเอง  อีกทั้งยังต้องขวนขวาย  และต้องแข่งขันกับผู้อื่นเพื่อก้าวไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่ตนเองได้ตั้งความหวังเอาไว้  จนบางครั้งทำให้เกิดการชิงดีชิงเด่นกัน  จนอาจนำมาสู่ปัญหากับตัวเองและผู้อื่นในท้ายที่สุด  อีกทั้งยังเป็นการก่อให้เกิดปัญหาต่อทางสังคมได้อีกด้วย

ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงปัญหาเหล่านี้แล้วจะเห็นได้ว่าพวกเค้าเหล่านั้นในบางครั้งอาจจะมองแต่ความต้องการในด้านของตนเองเพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการแข่งขันกันสิ่งต่าง ๆ ภายนอก  หรืออาจสืบเนื่องมาจากเหตุที่ว่าพวกเขามุ่งเน้นให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตของตัวเองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดมากจนเกินไป  จึงอาจส่งผลที่ตามมาคือ  พวกเค้าเหล่านั้นจะลืมที่จะใส่ใจมองออกไปยังอีกด้านหนึ่งของสังคม  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ  ในบางครั้งก็พวกเขาเหล่านั้นยังขาดการมองย้อนกลับมานึกทบทวนดูเรื่องราวรอบ ๆ ข้างของตนเอง  สนใจอยู่แต่สิ่งที่อยู่ข้างหน้าของตัวเอง  จึงอาจส่งผลทำให้พวกเขามองข้ามในเรื่องของการหยิบยื่นแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น หรือแม้แต่การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่าเราก็ตาม  จึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมตามมาได้

โครงการครูบ้านนอกได้เล็งเห็นถึงปัญหาในเรื่องดังกล่าวข้างต้น   จึงคิดได้ว่าว่า การที่นำพาซึ่งบุคลากรดังกล่าวมานี้ให้ได้ลองเข้ามามีส่วนร่วมในงานอาสาสมัครเป็นครูบ้านนอกเพื่อมารู้จักคำว่าทำเพื่อคนอื่น  ช่วยเหลือคนอื่นดูบ้าง  นอกเหนือจากการทำเพื่อตนเอง  หรือมุ่งแต่จะช่วยเหลือตนเอง และเพื่อแสดงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในสังคม  ได้ทบทวนตนเองดูว่าได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมมากน้อยเพียงใด  ได้มองเห็นสังคม มองเห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกในอีกแง่มุมหนึ่งที่อาจจะยังไม่เคยสัมผัส   ที่นอกเหนือไปจากการใช้ชีวิตในกรอบชีวิตของตนเอง อีกทั้งเพื่อให้ได้ตระหนักในคุณค่าของการใช้ชีวิตเพื่อการช่วยเหลือผู้อื่น  ว่ามีส่วนสำคัญเพียงใด  และเพื่อขัดเกลาจิตใจให้เป็นผู้ที่รู้จักการเสียสละให้แก่ผู้อื่นได้

เป็นการยกระดับจิตใจ  รู้จักการแบ่งปันให้เพื่อสังคม นอกเหนือจากการบริจาคของ บริจาคเงิน แต่เป็นการมาสัมผัสด้วยตนเอง  นอกจากจะทำให้ผู้อื่นมีความสุขแล้วตนเองก็ยังจะได้ความสุขทางใจที่ได้เกิดจากการเป็นผู้ให้  และยังเป็นการผักผ่อนจิตใจหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาเป็นเวลานานได้อีกด้วย

มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 241 ม. 1
ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย 57100
โทรศัพท์ / fax : 053 – 737 616

ติดต่อโครงการ
053 737 425     จันทร์ – ศุกร์  09:00 – 16:00

แผนที่มูลนิธิฯ ที่ตั้งโครงการ

The Mirror Foundation office in Chiang Rai is non-governmental organization located at Ban Huay Khom, Mae Yao, Muang district, Chiang Rai province. The area covered by Mae Yao sub-district that has 18 villages, 12 primary schools, and 3 branches, which focusing on work activities of the education and learning for children and youth. As well as push forward to encourage people in a community to be a group in order to contribute to the strong community, also indicate they to realize and recognition of changing in today’s society

Due to Thai’s society in nowadays still has a lot of people in many areas of Thailand that are the area that faced a shortage in many sides. Both of living and education, which the shortage of these may cause the problem that leads to the burden of Thai’s society. Kru Bannok project was awareness of this problem, so Kru Bannok project was established in order to help ease the social burden.

Kru Bannok project focuses on helping to mobilize a group of people in various corners of society that has a better chance than them to be volunteers, which it is a part of participation to help develop those rural communities. Moreover, these volunteers will g benefit from the participation of many activities that is good awareness, compassion for others, harmony, cultivate to be a giver without expecting anything in return.

This is the reason why Kru Bannok project always equips volunteers to dwell and has participation with villager and emphasis on children and youth. In order to learn the culture of each tribe that has the long history and learn about living condition. Meanwhile, to get good relationship and harmony between villagers and volunteers. Moreover, Kru Bannok will serve as a “teacher” by use knowledge that they have to use for teaching these children that lack education. In order to encourage the learning process of children and help children know the importance of education also help children fun, relax, and enjoy learning. Furthermore, Kru Bannok will understand about the problem of education of children and still have a lot of children lack of education. If there are volunteers in society, it can reduce and solve the problem of society. The volunteers of Kru Bannok project will help to develop in many areas by beginning to develop the group of villagers in Mae Yao sub-district   and then will expand to the group of villagers in other sub-district. Those group of villagers we know as “tribe”. Tribes include with many races such as Aka, Lahu, Karen and so on, each tribe have different language and culture and use Thai language as a second language.

The objective is to realize how much these things affect the country and lead to ways to resolve the problem and collaborate to improve the education of these disadvantage children for better developing.

 Kru Bannok project is a project of the Mirror Foundation that implementation early. Kru Bannok project is a project for who interested in volunteering around the country. The foundation has already conducted for a long time and the volunteers joined the project a variety of professions such as public servant, company workers, and students around the country come to be volunteers. The youngest volunteer is 6 years old and the oldest volunteer is 67 years old for each generation have volunteers joined by around 30 persons.

After Kru Bannok project has been operating for a while, the group target of the project was expanded, get the attention from various universities and this makes Kru Bannok project has the opportunity for the student who want to get direct experience to the elevation of the student’s mind and cultivate to be volunteer work for society.

In addition, Kru Bannok project has set new group target that focus on Enterprises Company that have main staff will work on Monday until Friday. Also, Kru Bannok project though that this target group is very interesting because people in this group always do the same thing every day, for example, they wake up early to work when evening they rushed back to their house to rest and get up early to work in another day. During working, they will face the competition all the time such as competition against time, competition with themselves and must complete with others in order to reach the destination that their own hopes. In sometimes cause a rivalry between a colleague and it may lead to problems with yourself and others at the end. It also caused problems for the society as well.

Upon consideration of this issue found that sometimes they just focus on their benefit and use it as a factor in the competition with external things. As a result, they forget to pay attention to another side of society and it may cause them overlook in term of giving good things to other or even to help each other who underserved than we. It can cause of social problems subsequent.

Kru Bannok project aware of the problem that mentioned above and has the idea that those people should come to be volunteers and be participated with Kru Bannok project. Meanwhile, learning about public interest more than individual interest to make them aware of their role in society, to think about how much they can be participated in society development and to purify their mind to be a person who sacrifices oneself for others. Moreover, to making others happy, then the volunteers will also be happy to be the giver and also rest mentally after tired from working hard for a long time as well.

มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 241 ม. 1
ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย 57100
โทรศัพท์ / fax : 053 – 737 616

ติดต่อโครงการ
053 737 425     จันทร์ – ศุกร์  09:00 – 16:00

แผนที่มูลนิธิฯ ที่ตั้งโครงการ

{:}