เมื่อข้าพเจ้าไปเป็น “ครูบ้านนอก” 2

เมื่อข้าพเจ้าไปเป็น “ครูบ้านนอก” โรงเรียน “บ้านป่าเมี่ยงแม่พริก” จ.เชียงราย (ตอนที่ 2)

#ครูบ้านนอก192 “ก่อนไฟฟ้าจะมาถึง” Ground Control to Major Tom Ground Control to Major Tom…Can you hear me, Major Tom? …And I think my spaceship knows which way to go ,Space Oddity-David Bowie
…หลังจากนั้นครูบ้านนอกแต่ละกลุ่มถูกเลือกให้ไปพักกับบ้านนักเรียน ข้าพเจ้าได้ไปพักกับบ้านของเด็กชายคมสัน เด็กชายผู้มีความฝันจะเป็นพระหลังจากจบชั้นประถม 6 …พร้อมกับครูบ้านนอกท่านอื่น ๆ อีกสี่ท่าน (ครูเอ็ม ครูเข้ม ครูเกม ครูพิชญ์)
เหล่านักเรียนทั้งหลายต่าง ๆ เตรียมตัวเดินทางกลับบ้านกลับช่องของตนเอง โดยแยกเข้าแถวตามหมู่บ้าน ใครอยู่หมู่บ้านไหนก็เข้าแถวตามหมู่บ้านนั้นเพื่อจะได้มีเพื่อนกลับด้วยกัน นักเรียนบางคนก็มีผู้ปกครองขับมอเตอร์ไซค์มารอรับด้วยตนเอง เราต่างแยกย้ายและค่อย ๆ ทยอยเดินออกจากโรงเรียนไปยังบ้านที่จะเดินทางไปพัก ข้าพเจ้าไปพักในหมู่บ้าน “ปางต้นผึ้ง” เราเดินไปพร้อม ๆ กับกลุ่มคุณครูท่านอื่น ๆ ที่ได้ไปพักในหมู่บ้านเดียวกัน ในมือ บนหลัง หัวไหล่นอกจากจะมีสัมภาระของตนเองแล้ว ยังเต็มไปด้วยวัตถุดิบ เครื่องปรุงสำหรับทำอาหารประจำวันด้วย ณ ระหว่างทางเสียงหัวเราะ เสียงจากการพูดคุย ทำความรู้จักระหว่างคุณครูด้วยกัน ระหว่างคุณครูกับนักเรียนดังค่อย ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ พอที่จะทลายความเงียบจากธรรมชาติรอบข้างไปได้บ้างในท่ามกลางของสีเขียว ๆ ของต้นไม้ เสียงของสัตว์เลี้ยง เสียงของสายน้ำจากลำธารที่ขนานไปกับถนนทางเข้าหมู่บ้าน และเรายังคงขึ้น ๆ ลง ๆ กับเนินเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ ระยะของเส้นทางรวมไปกลับวันละ 4 กิโลเมตร ซึ่งนั่นหมายความตลอดของการเป็นครูอาสาที่นี่เราต้องเดิน เดิน และเดิน (นั่นยิ่งทำให้ตระหนักและเคารพในคุณค่าของระยางค์สองคู่นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก)

ระหว่างทางกลับบ้าน
เราเดินเข้าไปเรื่อย ๆ และเริ่มมีบ้านเรือนปรากฎออกมาให้เห็น บ้านเรือนเคียงกัน ชาวบ้านทั้งที่อยู่ในบ้านเยี่ยมหน้าออกมามองและชาวบ้านที่สัญจรไปมาต่างส่งเสียงทักทายและส่งรอยยิ้มเล็ก ๆ แก่เรา ความเงียบ เสียงของธรรมชาติรอบข้างและรูปร่างหน้าตาของหมู่บ้านทำให้ข้าพเจ้าเหมือนหลุดเข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง ทุก ๆ การเชื่อมต่อจากโลกภายนอกและถนนใหญ่ขาดออกจากกันสิ้น ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงอีกดาวดวงหนึ่ง ท่วงทำนองเพลง Space Oddity ของ David Bowie ลอยวนเวียนอยู่รอบ ๆ ข้าพเจ้า
“Ground Control to Major Tom (ten, nine, eight, seven, six) Commencing countdown, engines on (five, four, three) Check ignition and may God’s love be with you (two, one, liftoff) …And I think my spaceship knows which way to go…Far above the moon Planet Earth is blue…”,Space Oddity-David Bowie
“บ้านเรือนไม้หลังสีน้ำตาล ใต้ถุนบ้านมีชั้นกองไม้ฟืนจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ โต๊ะไม้ขนาดใหญ่และม้านั่งแถวยาวขนานข้าง ราวบันไดสลักลวดลายตามอย่างช่างเมืองเหนือ ล้อมรอบด้วยรั้วไม้ ภายในบริเวณบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้เล็ก ๆ ไม้ประดับจัดวางไว้อย่างละเล็กละน้อย เสียงน้ำไหลของลำธารที่ติดอยู่กับแนวด้านข้างของบ้าน ควันไฟลอยผ่านหลังคาจากหลังบ้าน อบอวลด้วยกลิ่นของการต้มนึ่งใบไม้อะไรสักอย่าง” นี่คือภาพประทับเมื่อแรกพบกับบ้านของคุณพ่อผัดและคุณแม่ยอดแก้วซึ่งค่อย ๆ เปิดฉากความน่ารัก ความงาม เป็นธรรมชาติ ชีวิต ความเรียบสงบ ร่มเย็น อวดแก่ดวงตาของข้าพเจ้า
มิตรภาพค่อย ๆ เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นทีละเล็กละน้อยจากการทักทายด้วยคำง่าย ๆ อย่าง “สวัสดี” และ “การไหว้” พ่อผัดซึ่งกำลังสาละวนอยู่กับการนึ่งใบเมี่ยงรีบออกมาต้อนรับขับสู้พวกเรา เชื้อชวนเชิญให้ขึ้นบนบ้าน จัดทีหลับทีนอน ส่วนแม่ยอดแก้วยังไม่กลับมาจากการไปเก็บใบเมี่ยง (ใบชาเขียว) เพื่อเอามานึ่งในวันถัดไป ครูบ้านนอกแต่ละคนต่างเอาสัมภาระของตนเองไปเก็บและนัดหมายเวลามาทำอาหารเย็นด้วยกัน นี่เป็นมื้อแรกของคนที่ได้มารู้จักกันที่นี่เป็นครั้งแรก คุณครูบางคนออกไปสำรวจในหมู่บ้านระหว่างรอคอยเวลากลับมาทำกับข้าว ส่วนข้าพเจ้าหลังจัดแจงสัมภาระของตนเองเรียบร้อยแล้ว รีบเดินดุ่ม ๆ ลงไปลำธารใกล้บ้าน ดื่มด่ำกับสายน้ำ ต้นไม้ ก้อนหิน เม็ดทราย…ธรรมชาติให้คุณค่าแก่เรามากมายมหาศาลรวมถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ข้าพเจ้าเริ่มต้นทบทวนภายในของตนเอง…และยิ้มกับตนเอง
 
 
ลำธาร น้ำใส ต้นไม้ ก้อนหิน เม็ดทราย….ติดกับบ้านของพ่อผัด
 
“I spent my time watchin’ the spaces that have grown between us… I’m walkin’ back down this mountain with the strength of a turnin’ tide Oh the wind’s so soft on my skin, the sun so hard upon my side Oh lookin’ out at this happiness, I search for between the sheets Oh feelin’ blind and realize, all I was searchin’ for was me”,Ben Howard – Keep Your Head Up

Into myself
ข้าพเจ้าทำลายความเงียบลงด้วยการเปิดฉากสนทนาสารทุกข์สุกดิบ ที่มาที่ไปกับพ่อผัด ผู้เรียบง่าย สมถะ (ท่านเป็นปราชญ์ชาวบ้านทางด้านสมุนไพร) ส่งสำเนียงภาษาเมืองเหนือที่ข้าพเจ้าพอจะเดาได้บ้าง ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ขณะที่พ่อผัดกำลังนึ่งใบเมี่ยงไปด้วยและพลางเชื้อชวนให้ข้าพเจ้าได้ลิ้มลองกับ “มะขม” ซึ่งขมจริง ๆ ท่องไว้ในใจ “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ของกินประจำถิ่นของที่นี่ มะขม สมชื่อสมนามจริง ๆ

พ่อผัด กำลังนึ่งใบเมี่ยงชาเขียว
 

ใบเมี่ยงชาเขียวซึ่งผ่านการนึ่งมาเรียบร้อยแล้ว ขายในราคามัดละ 10 บาท
 

มะขมแบบต้มเรียบร้อยแล้วพร้อมรับประทาน ครูบ้านนอกน่าจะได้กินกันทุก ๆ คน
 

มะขม
เมื่อได้เวลาคุณครูบ้านนอกต่างมาร่วมวงลงแขกกันทำกับข้าวมื้อเย็น มื้อแรกของพวกเรา ใครทำอาหารอะไรได้ก็ทำอย่างนั้น ตามวัตถุดิบที่เราได้รับมาและตั้งใจว่ามื้อนี้ต้องทานร่วมกันกับเจ้าของบ้านและเด็กชายคมสันด้วยกัน (ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะกินข้าวกินปลาจากรสมือของครูอาสาวัยหนุ่มทั้งหลายได้หรือไม่)

เด็กชายคมสัน กับเมนูเฉพาะของตนเอง
 

ครูบ้านนอกทั้งหลาย ลงแรงช่วยกันคนละเมนู สองเมนู
ที่ข้าพเจ้าชื่นชอบก็เห็นจะเป็นข้าวเหนียวที่กินเป็นข้าวหลัก กินกันทุกมื้อ ปั้น ๆ จิ้ม ๆ ในทุก ๆ กับข้าว แต่แม่ยอดแก้วจะนึ่งข้าวสวยเตรียมไว้ให้เราเสมอ เพราะกังวลว่าเราจะกินข้าวเหนียวกันไม่ได้ สำหรับเมนูเด็ดนอกจากอาหารอย่างทางเหนือตามที่พอจะหากินได้ตามวัตถุดิบจากป่าแล้ว “ยำใบเมี่ยงชาเขียวสด” ซึ่งแม่ยอดแก้ว พ่อผัดแนะนำให้เราต้องลิ้มลอง โดยเมนูนี้จะต้องกินกันตอนเช้าเพราะไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ ตาค้างกันไป การทำครัวด้วยกันเป็นเรื่องสนุกสนาน ซึ่งหลัก ๆ ของแต่ละวันแล้วจะต้องเตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้าและมื้อเย็นเพื่อกินอาหารด้วยกันในทุก ๆ มื้อ ภาพประจำวันของเช้าตรู่และเย็นในแต่ละวัน นอกจากคุณครูอาสาจะอยู่กันในครัวแล้วคือภาพของ “แม่ยอดแก้วกับเตาไฟแบบฟืน”

แม่ยอดแก้ว กับชีวิตประจำวันในครัว
ความมืดดำของคำ่คืนค่อย ๆ กลืนกินความสว่างไสว เสียงของสัตว์กลางคืนออกหากิน ความเงียบของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยปริศนา ทุก ๆ ค่ำคืนคุณครูบ้านนอกทั้งหลายจะมีนัดประชุมกันที่โรงเรียนเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เตรียมการ รื่นรมย์กับบรรเทิงต่าง ๆ เท่าที่มีหรือจะสร้างสรรค์กันได้และเป็นเช่นนั้นเราต่างเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนด้วยกัน สิ่งที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นนั่นคือความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ความปราถนาดีของคนวัยหนุ่มสาวเหล่านี้
ณ คืนแรกนั้น เราได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับคุณครูผู้สอนประจำอยู่ที่นี่ 2 ท่าน ซึ่งสอนทุกวิชา สอนทุกชั้นเรียนคือ “ครูอุ้มและครูฟาม” คนรุ่นใหม่ที่มีความกล้า กล้าลงมือที่ทำให้เกิดผลงานแก่ส่วนรวม คุณครูทั้งสองค่อย ๆ บอกเล่าประสบการณ์การทำงานของตนเอง เรื่องราวของเด็ก ๆ การดำรงชีวิต ชุมชน ความขาดแคลน แรงบันดาลใจของนักเรียน การเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ สภาพสังคมรอบ ๆ โรงเรียนที่กำลังเปลี่ยนแปลง ระบบการศึกษา…และที่สำคัญมาก ๆ คืออนาคตของนักเรียนเมื่อเขาเหล่านั้นจบชั้นเรียนสุดท้ายของโรงเรียนแห่งนี้ไป เรื่องเล่าของคุณครูหลาย ๆ เรื่องต่างสะท้อนและเชื่อมโยงให้เห็นปัญหาทางโครงสร้างระบบการศึกษาไทย (บางทีคำถามข้อใหญ่ ๆ ในใจของข้าพเจ้าคือ การศึกษาสำหรับมนุษย์คนหนึ่งนั้นเพื่ออะไร ? เพื่อสำหรับการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของตนเอง เรียนรู้เพื่อดำรงอยู่ เติบโตกับประจำวันของตนเองให้ได้ ? หรือตอบโจทย์ตัวชี้วัดทางการศึกษาไทยเพื่อบอกแก่สังคมโลกและเปรียบเทียบค่าคะแนนว่าเราอยู่อันดับไหนของโลก ? )
“I don’t know why…I look at the world and I notice it’s turning While my guitar gently weeps With every mistake we must surely be learning Still my guitar gently weeps” , While My Guitar Gently Weeps-The Beatles
ข้าพเจ้าเชื่อเหลือเกินและได้เห็นแล้วว่าเด็ก ๆ ที่นี่อยู่รอดและแข็งแรงกับชุมชนของตนเองในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน งานของคุณครูทั้งสองที่กำลังดำเนินอยู่นั้นมีคุณค่า งดงาม มีความหมายมากมายแก่เด็ก ๆ ชาวบ้าน และชุมชน“แม่พริก” ที่นี่ และนับถือในน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของครูทั้งสอง นี่เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ข้าพเจ้าได้พบเจอในชีวิตอีกเรื่องหนึ่ง
คืนนั้นระหว่างค่อย ๆ เดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางความมืดมิดแห่งป่าดอยนี้ ข้าพเจ้าแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า นอกจากความความตื่นเต้น พรึงเพริศแล้วยังปนเปกับความตกใจของตนเองที่นานนมมาแล้วหลายปี ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นดาวเต็มท้องฟ้ามากมายขนาดนี้ มันงดงามในสายตาของข้าพเจ้า
ระยิบระยับ พร่างพราวพราย
“…240 thousand miles from the Moon, we’ve come a long way to belong here, To share this view of the night, a glorious night, over the horizon is another bright sky Oh, my my how beautiful…”,93 Million Miles-Jason Mraz
คืนนี้ข้าพเจ้าหลับไปพร้อมกับดวงดาว ระยิบ ระยับพร่างพราวพรายและรอคอยการมาถึงของวันพรุ่งนี้ วันแรกของการสอนและแบ่งปัน…
Ground Control to Major Tom (ten, nine, eight, seven, six), Space Oddity-David Bowie
ภาพ / เรื่อง : KLIN MATAHARI
scroll to top