เมื่อข้าพเจ้าไปเป็น “ครูบ้านนอก” 3

เมื่อข้าพเจ้าไปเป็น “ครูบ้านนอก” โรงเรียน “บ้านป่าเมี่ยงแม่พริก” จ.เชียงราย (ตอนที่ 3)

#ครูบ้านนอก192 “ก่อนไฟฟ้าจะมาถึง” “ป่าสวยเด่น เห็นแมกไม้… เมี่ยงใบติดตามต้นคนเสาะหา… ดีแสนดีมีคุณธรรมน้อมนำใจ…คนร่มเย็น” , บางส่วนของเพลงประจำโรงเรียน
เสียงกริ่งลากเสียงยาว ส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งโรงเรียน เชิญชวนเหล่านักเรียนทั้งหลายที่กำลังสนุกสนานอยู่กับการเล่นต่าง ๆในยามเช้าเหมือนเช่นทุก ๆ วัน ต่างค่อย ๆ หยุดและเตรียมตัวเดินมาเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธงกันอย่างพร้อมเพรียง วันนี้นักเรียนส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดพละศึกษา เสื้อคอปก สีขาว กางเกงสีน้ำเงิน ทยอยยืนเรียงจากคนตัวเล็กไปหาคนตัวใหญ่และวันนี้พิเศษด้วยการเติมต่อท้ายแต่ละแถวด้วยคุณครูบ้านนอกในแต่ละแถว เสียงของ “เพลงชาติไทย” แบบเสียงสดใสเริ่มเปล่งออกมาอย่างสุดพลังจากนักร้องเหล่าวัยเยาว์ ข้าพเจ้าไม่ได้ยินเสียงแบบนี้มานานแสนนานแล้วซึ่งค่อย ๆ ส่งธงไตรรงค์ลอยล่องขึ้นไปโบกพริ้ว ๆ ปลิวสะบัดไหว ๆ ตามสายลม ณ ปลายสุดของยอดเสาธง หลังจากนั้นตามมาด้วยเสียงสวดมนต์อาขยานสรรเสริญบูชาคุณระลึกแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และปิดท้ายด้วยเพลงประจำโรงเรียนที่ทุก ๆ คนจารึกไว้ในหัวใจ
“ป่าสวยเด่น เห็นแมกไม้… เมี่ยงใบติดตามต้นคนเสาะหา… ดีแสนดีมีคุณธรรมน้อมนำใจ…คนร่มเย็น”, บางส่วนของเพลงประจำโรงเรียน ทันทีที่กิจกรรมประจำวันหน้าเสาธงในแบบฉบับของโรงเรียนจบลง ความสนุกสนานจึงเริ่มขึ้นด้วยกิจกรรมสันทนาการเล็ก ๆ ของทีมครูบ้านนอก ครูบ้านนอกและนักเรียนต่างได้สัมผัสซึ่งกันและกันมากขึ้นไปอีก ความใหม่และสร้างความประหลาดใจ อึ้ง ๆ ให้แก่ครูบ้านนอกหลาย ๆ คนคือกิจกรรมสันทนาการเข้าจังหวะในเวอรชั่นภาษาอังกฤษของครูอุ้มซึ่งเด็ก ๆ มีความคล่องแคล่ว เข้าจังหวะจะโคนกันเป็นอย่างดีมากทำให้ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานมากขึ้นไปอีก ทั้งครูบ้านนอก เด็ก ๆ เต็มไป เสียงหัวเราะ รอยยิ้มบนใบหน้า เสียงหายใจ หอบเหนื่อย กระโดด ๆ กระโดด ๆ ไปข้างหน้าที ข้างหลังที ข้างขวาที ข้างซ้ายที และวิ่ง ๆ วิ่ง ๆ ความน่ารัก สดใส ซุกซน ความฉงนสนเทห์ของนักเรียนชั้นอนุบาลราวปุยเมฆโดยหากแตะต้องเพียงเบา ๆ อาจจะละลายได้ในพริบตา วันนี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดวัน “I belong with you, you belong with me you’re my sweetheart I belong with you, you belong with me you’re my sweet”, The Lumineers – Ho Hey

ก้อนหิน กรรไกร กระดาษ ?
เมื่อชั้นเรียนได้เปิดห้องเริ่มขึ้นแล้ว เหล่าครูบ้านนอกต่างเริ่มทยอย ๆ ทำงานสอนกันเป็นทีม ทีมละ 4-5 คนโดยแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ และหมุนเวียนกันสอนไปตามชั้นตามวัยของกลุ่มนักเรียน รูปแบบของกิจกรรมการสอนแต่ละกลุ่มนั้นได้มีการเตรียมร่วมกันมาล่วงหน้า เมื่อมาเจอกับสถานการณ์จริงตรงหน้าต่างต้องปรับให้เข้ากับช่วงวัย ลักษณะของนักเรียนของแต่ละชั้น กลุ่มของข้าพเจ้าประกอบไปด้วย ครูนัท(ชาย)ช่างภาพผลงานมือโปร ครูนัท(หญิง)สาวออฟฟิศทำงานด้านทรัพยากรบุคคล ครูเอ็มผู้อยู่ระหว่างการเดินทางแบบ Back packer และครูปั๊บผู้เรียนด้านการแสดงซึ่งส่งสำเนียงภาษาอังกฤษอยู่อย่างสม่ำเสมอ เธอกำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ทีมของเราได้คุณครูบ้านนอกที่มีความหลากหลายสาขาความรู้ ความสนใจ เราเตรียมการสอนและตกลงด้วยกันก่อนว่าจะสอนโดยใช้ “หนังสือนิทานสองภาษา ฝึกฝนการอ่านภาษาไทยจากนิทานเล่มที่นักเรียนอยากจะอ่าน เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษในเล่ม ให้ทำงานเป็นทีมด้วยการวาดภาพในจินตนาการถึงตอนจบของนิทานเล่มที่ได้เลือกไว้ ไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะได้เจอ “ปิกัสโซ” (Picasso) ที่ป่าเมี่ยงแม่พริกนี้ก็เป็นไปได้และท้ายสุดให้แต่ละทีมออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนด้วยการเล่าเรื่องจากภาพวาดที่ได้วาดร่วมกันไว้”

ห้องเรียนครูบ้านนอก
หลังจากทำความรู้จักทักทายกันด้วยการออกท่าออกทางประกอบชื่อของแต่ละคนและจดจำชื่อเสียงเรียงนามกันทั้งฝั่งของนักเรียนและคุณครูแล้ว เราให้นักเรียนตกลงกันเองภายในกลุ่มเพื่อเลือกนิทานที่อยากจะอ่าน เรามีนิทานน่ารัก ๆ 3 เล่ม มีสมุดวาดเขียนขนาดกลาง 2 เล่มและกล่องสีไม้หลากสีอีก 5 กล่อง คุณครูแต่ละคนค่อย ๆ ทำหน้าที่ของตนเองตามที่ได้แบ่งงานกันไว้ เสียงอ่านภาษาไทยอย่างฉะฉาน เร้าอารมณ์ ความตื่นเต้นตามเรื่องตามราว ตามจินตนาการ ตามแต่จะสร้างสรรค์ ส่งเสียงตามกันไปทีละบรรทัด ๆ โลกในนิทานแตกต่างจากโลกของความเป็นจริงที่นักเรียนกำลังดำรงอยู่ เราค้างเรื่องราวไว้ที่กลางเล่ม และให้โจทย์กับนักเรียนว่าจะจินตนาการตอนจบในแบบฉบับของตนเองอย่างไร? โดยให้วาดภาพ ระบายสีร่วมกัน ก่อนเปลี่ยนให้คุณครูปั๊บมาสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษและการออกเสียงสำเนียงอย่างถูกต้อง

วาด ๆ ระบาย ๆ

คนละนิด คนละหน่อย เธออยากให้มีภาพอะไรบ้าง โปรดบอก

วาดฝัน วาดจินตนาการของเรา
นักเรียนชายหญิงตัวน้อย ๆ ต่างช่วยกันคิด ช่วยกันเติมภาพวาดของกลุ่มตน ลงเส้นเบา ลงเส้นหนัก วาดตามจินตนาการด้วยกัน บนกระดาษสีขาวนั้นจะมีอะไร ๆ อยู่บ้าง บางคนถนัดคิดจินตนาการ บางคนถนัดวาด บางคนถนัดระบายสี จินตนาการปรากฎเป็นรูปเป็นร่างในแบบฉบับของตนซึ่งสุดแท้ที่แต่ละคนจะจินตนาการและฝันไปถึง เมื่อครบกำหนดเวลาการทำงานชิ้นนี้แล้ว เราให้นักเรียนออกมาช่วยกันเล่าเรื่องจากภาพที่วาดออกมา เรื่องราวของตอนจบนิทานที่แต่ละคนช่วยกันต่อเติมจนกลายเป็นนิทานของตนเองเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความเชื่อมั่น ความเขินอาย น้ำเสียงเล็กๆ น่ารัก ๆ ค่อย ๆ พรั่งพรูออกมาเพื่อปิดฉากการจบของนิทานแห่งตน

นิทาน…สอนให้รู้ว่า…

นิทานเรื่องนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้

เธอค่อย ๆ เล่า ฉันค่อย ๆ ต่อ ๆ เราค่อย ๆ เติมรวมกันเป็นนิทานตอนจบบริบูรณ์ในแบบของเรา

แล้วทั้งสองก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

เล่าเรื่องจากภาพของฉากจบนิทานในแบบฉบับของตนเอง
ตลอดวันของการสอนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามชั้นเรียนต่าง ๆ น้อง ๆ ลูก ๆ ชั้นอนุบาลน้อย ๆ ที่รวมกันมาสามชั้นเรียนคือความยากและท้าทายที่สุด สำหรับข้าพเจ้าแล้วเห็นว่าควรต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ตามวัยที่เขาอยากจะทำอะไร อย่างไร เจ้าฟันน้ำนมทั้งหลายนึกอยากจะนิ่งนั่งฟังนิทานก็มีความตั้งใจมาล้อมวงนั่ง นอนฟังกันได้ราวกับจับวางและไม่กี่ชั่วอึดใจต่างพลันวิ่งไล่เล่นกันส่งเสียงลั่นห้อง เล่นของเล่นอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้ว่าไปเอาพลังมากมายเหล่านั้นมาจากไหนกัน วิ่งออกประตูซ้ายที เข้ามาทางประตูขวาที กระโดดโลดเต้น จะพูดจะทำอะไรตามแต่ที่ใจปรารถนาของตนเอง บทเพลง Do what you want ของ Lady Gaga ค่อย ๆ ล่องลอยเข้ามาในห้องและวิ่งติดตามเหล่าเด็ก ๆ ไปคนละท่อน ๆ “I feel good… So do what you want, what you want with my body Do what you want, don’t stop, let’s party Do what you want”, Do what you want-Lady Gaga

เวลาหนูนิ่งหนูนิ่ง ๆ เวลาหนูวิ่งหนูเต็มที่ ละลายไปกับความสดใสด้วยเจ้าฟันน้ำนมทั้งหลาย
สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้รับรู้ รู้สึก เรียนรู้เอาจากเด็ก ๆ นักเรียนเหล่านี้นั้นคือ พลังของวัยเยาว์ ความตั้งใจในการทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง ความอิสระในการคิด การสร้างสรรค์ที่ไม่จำกัด สีสัน การลงมือทำงานด้วยกัน ความเป็นเพื่อน เป็นมิตร การช่วยเหลือกัน ความกล้าในการตัดสินใจ บางคนกล้าที่จะลงมือวาด ระบายสี บางคนกล้าที่จะบอกเล่าความคิด ความรู้สึกของตนเอง นักเรียนบางคนบนใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม ความสนใจใคร่รู้กับสิ่งใหม่ ๆ ที่ตนเองไม่เคยพบพาน การลองผิดลองถูก ความซุกซน ความสามัคคี ความเป็นธรรมชาติ ข้าพเจ้าย้อนกลับไปในวัยเยาว์ของตนเอง ข้าพเจ้ากำลังทำอะไรอยู่นะ ณ ขณะวัยเดียวกันนี้ แต่ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ พวกเขาเป็นครูแก่ข้าพเจ้าได้ดีทีเดียวเช่นกัน

ร่วมแรงแข่งขัน
เมื่อจบกิจกรรมการเรียนและสอนในช่วงบ่ายแก่ ๆ แล้ว กิจกรรมออกกำลัง เคลื่อนไหวได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ทั้งครูและนักเรียนต่างปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาอย่างไม่ขาดสาย กิจกรรมเข้าจังหวะ ชิงไหวชิงพริบ ไปตลอดจนแข่งขันกีฬาวิ่งเปี้ยว นอนต่อความยาว แชร์บอล ตามแต่จะคิดจะสร้างสรรค์ออกมาอบอวลห้อมล้อมไปด้วยเสียงของความสนุกสนาน เสียงหัวเราะ เสียงร้องเพลง เสียงเชียร์ให้กำลังใจ เสียงกลอง ท่ามกลางแสงแดดและอากาศเย็น ๆ ข้าพเจ้านั้นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้งอย่างมาก วันแห่งการเรียนรู้ในวันนี้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นถือเป็นอีกหนึ่งวันที่เติมเต็มและเหลือล้นของความตั้งใจ ความประทับใจ เป็นภาพประทับแห่งความทรงจำในการทำงานชิ้นนี้ของข้าพเจ้าที่จะเล่าสู่กันฟังแก่ใคร ๆได้อย่างไม่รู้จบ ไม่รู้โรยรา

สมานสามัคคีต่อกันไปให้ยาวที่สุด
หลังจากทานอาหารมื้อเย็นกันกับครอบครัวที่บ้านและเดินทางมาที่โรงเรียนตามเวลานัดหมายกันเรียบร้อยแล้ว คืนนี้เรามีกิจกรรมสังสรรค์กันต่อ โดยเสียงเพลงขับกล่อมแบบฉบับเพลงทางเหนือพร้อมกีตาร์มาจากคุณครูใหญ่ผู้มากความสามารถ ค่อย ๆ ทยอย ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ทั้งบทเพลงของคุณพี่จรัญแบบเต็มอัลบัม คุณลุงสุรพลก็มา(คิดถึงพ่อขึ้นมาทันทีทันใด) หรือเพลงไทยสากลจากน้อง ๆ คุณครูบ้านนอกที่สลับเล่นกันบ้างให้ได้พอหอมปากหอมคอกันบ้างในค่ำคืนนี้ แต่ที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่งคือหลังจากกิจกรรมสันทนาการตามแบบฉบับบ้านนอก ๆ จบลงแล้วนั้น เราออกเดินไปหากุ้งหาปลาในลำธารใกล้ ๆ กันต่อ โดยมีพี่ชาติ อบต. แม่พริกนำหน้าคณะครูบ้านนอกเพื่อเรียนรู้วิถีทำมาหากินของชาวบ้านแห่งนี้ ข้าพเจ้าชุ่มฉ่ำ สดชื่นไปกับสายน้ำไหล เสียงของน้ำไหล แสงไฟจากไฟฉายส่องกระทบและทะลุลงไปในน้ำเพื่อส่องหาปลาหากุ้งตัวน้อย เสียงคุณครูบ้านนอก เสียงของการเดินท่องในลำน้ำ พร้อมอุปกรณ์การหาปลาแบบครบชุดเต็มมือเต็มไหล่ทั้งสวิง ไฟฉาย ข้องใส่ปลา ณ คืนนั้นคณะหาปลาได้ทั้งปลา กุ้ง กบตัวน้อย ๆ ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้วิถีของคนที่นี่ รวมทั้งประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นจากลำธารที่เป็นป่าช้าอันสุดแสนจะจินตนาการกันไปต่าง ๆ นานา อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ทุกคนจะได้กินน้ำพริกกบ แอ็บปลาและกุ้ง ฝีมือแม่ยอดแก้วสำหรับมื้อเที่ยงก่อนที่เราจะไปเข้าป่าเขียว ๆ กันอย่างแน่นอน

ท่องไปในลำน้ำ หากุ้ง หาปลาประสาชาวบ้าน

ปลาเล็กปลาน้อย จากลำน้ำป่า

ครูบ้านนอก 129
“Hold on, to me as we go… If you get lost, you can always be found Just know you’re not alone ‘Cause I’m going to make this place your home…”, Phillip Phillips – Home
ภาพ / เรื่อง : KLIN MATAHARI
scroll to top