…ครูบ้านนอก รุ่น 80…
ที่มาของคำว่า “รัก” สาเหตุหนึ่งมาจากการ “เติมเต็ม” และ “แบ่งปัน” ซึ่งการ “แบ่งปัน” นี้สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันสิ่งของ แบ่งปันความรู้ และอื่นๆอีกมากมาย ที่เราสามารถทำได้ ส่วนการ “เติมเต็ม” คือการเพิ่มในสิ่งที่เขาขาด ที่เขาไม่มี หรือไม่เคยได้รับ เป็นต้น ณ วันนี้ก็เช่นกัน ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก มันเป็นช่วงแห่งการแบ่งปัน และเติมเต็มอย่างแท้จริง สำหรับครูบ้านนอกรุ่น 80 เพราะเป็นช่วงที่หลาย ๆ คนได้ใช้เวลาพิเศษนี้อยู่กับคนที่รัก ครอบครัวที่รัก แต่ ครูบ้านนอกกว่า 24 ชีวิต ได้เลือกที่จะมาแบ่งปัน สานฝัน เติมเต็มความรักให้กับเด็ก ๆ บนดอยสูงที่เขาขาดแคลน
ณ บ้านสันกลาง ชนเผ่าอาข่า ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการเดินทางที่แสนสนุก คลุกเคล้าฝุ่นดินบนถนนดินแดง สร้างความตื่นเต้นเร้าใจไปอีกแบบประกอบกับบรรยากาศ สองข้างทางที่สุดแสนจะบรรยาย เดินทางได้ไม่นานสายฝนก็สาดเทลงมาช่วยผ่อนคลายความร้อน ทั้ง ๆ ที่หน้านี้ไม่ใช่ฤดูฝนเลย กว่าจะเดินทางถึงหมู่บ้านครูบ้านนอกแต่ละคนก็มอมแมมกันพอสมควร เมื่อถึงหมู่บ้านบรรยากาศการต้อนรับที่แสนอบอุ่นของชาวบ้านและเด็ก ๆ ชนเผ่าอาข่า
มันทำให้หาย เหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง พักพอหายเหนื่อย การรอคอยของเด็ก ๆ การรอลุ้นของคุณครู ก็มาถึงช่วงเวลาที่เด็ก ๆ จะเลือกครูเข้าพักที่บ้านของตนเอง เอาหละคราวนี้ครูใช้วิทยายุทธกันยกใหญ่ ทำอย่างไรให้เด็ก ๆ เลือกแต่ด้วยความสามารถที่ครูพกติดตัวกันมาใช้โน้มน้าวจิตใจเด็ก ครูก็มีบ้านนอน เด็ก ๆ จูงมือครู ช่วยกันถือกระเป๋าสัมภาระเข้าบ้านตัวเอง บรรยากาศช่วงเวลานี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับเทศกาลแห่งรักเสียนี่ กระไร ค่ำคืนนี้กลางลานหมู่บ้าน ครู เด็ก ๆ อามะ – อาดะ มาร่วมเล่นกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน สร้างความสนุกสนานครื้นเครงไปอีกแบบ ก่อนที่จะมีเวทีพบปะพูดคุยกับผู้นำและกรรมการหมู่บ้าน เพื่อทำความรู้จัก ฝากเนื้อฝากตัว และซักถามความสงสัยต่าง ๆ ที่ครูอยากรู้ เกี่ยวกับประวัติหมู่บ้าน ประเพณีวัฒนธรรม ฯลฯ ก่อนจะล่ำลากันเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นขึ้นมารับตะวัน กับวันใหม่ที่สดใสในบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาและลมเย็น ๆ ในช่วงปลายหนาว บรรยากาศเช้าวันใหม่กับน้ำชาอุ่น ๆ ในกา ที่อามะ-อาดะ ยื่นให้แขกที่เข้ามาพักอาศัยในบ้านซึ่งเปรียบประดุจดังลูกหลาน ช่างดีและอบอุ่นเสียเหลือเกิน วันนี้เป็นวันที่สองที่เหล่าครูบ้านนอกมาทำกิจกรรม ณ หมู่บ้านนี้ ซึ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ชาวบ้านหยุดทำงานเข้าโบสถ์ ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ก่อนที่จะมีเวทีพบปะพูดคุยกับผู้นำและกรรมการ หมู่บ้าน เพื่อทำความรู้จัก ฝากเนื้อฝากตัว และซักถามความสงสัยต่าง ๆ ที่ครูอยากรู้ เกี่ยวกับประวัติหมู่บ้าน ประเพณีวัฒนธรรม ฯลฯ ก่อนจะล่ำลากันเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นขึ้นมารับตะวัน กับวันใหม่ที่สดใสในบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาและลมเย็น ๆ ในช่วงปลายหนาว
บรรยากาศเช้าวัน ใหม่กับน้ำชาอุ่น ๆ ในกา ที่อามะ-อาดะ ยื่นให้แขกที่เข้ามาพักอาศัยในบ้านซึ่งเปรียบประดุจดังลูกหลาน ช่างดีและอบอุ่นเสียเหลือเกิน วันนี้เป็นวันที่สองที่เหล่าครูบ้านนอกมาทำกิจกรรม ณ หมู่บ้านนี้ ซึ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ชาวบ้านหยุดทำงานเข้าโบสถ์ ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ครูทั้งหลายก็มีกิจกรรมที่จะทำร่วมกับชาวบ้านและ เด็กเช่นกัน วันนี้เราเหล่าครูบ้านนอกจะทำการเรียนการสอนทั้ง อาดะ – อามะ และเด็ก โดยใช้พื้นที่ในหมู่บ้านเป็นห้องเรียนในช่วงเช้า ช่วงบ่ายจะเป็นการเสริมสร้างสุขลักษณะอนามัย ไม่ว่าจะเป็นการตัดเล็บ ตัดผม กำจัดเหา อาบน้ำขัดสีฉวีตัว ให้เด็ก ๆ เพื่อปลูกฝังให้เด็กเรียนรู้การรักษาอนามัยตั้งแต่เด็ก ตกเย็นเป็นเวลาของครอบครัวครูแยกย้ายเข้าบ้านเพื่อทำอาหารและทานอาหารร่วม กับคนในครอบครัว ก่อนมาทำกิจกรรมรอบกองไฟ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำความรู้จักระหว่างครูด้วยกันเอง และเสริมด้วยกิจกรรมการละคร โดยวิทยากรผู้เลอโฉม (จ่าแกะ) เช้าวันใหม่สดใส อิ่มใจกับทะเลหมอก วันนี้เป็นวันที่ครูจะเป็นนักเรียน ส่วนเด็ก ๆ ก็จะกลับกลายมาเป็นครูแทน เพราะเหตุอะไร เพราะวันนี้ครูจะได้เรียนรู้การดำรงชีวิตจริง ๆ ที่ชาวบ้านและเด็ก ๆ ดำรงชีพในแต่ละวัน วันนี้ครูจะห่อข้าวเที่ยงไปด้วยจะได้แวะทานระหว่างไปทำไร่กับเด็ก วันนี้ทั้งวันนักเรียนครูบ้านนอกโดนครู (เด็ก ๆ ) สอนวิชาชีพกันถ้วนหน้า ก่อนกลับบ้านแวะเก็บผัก หักฟืน ระหว่าทางที่เราผ่านเพื่อไปประกอบอาหารได้อีก วันนี้วันที่ครูรอคอยก็มาถึง วันแห่งการเป็นครู
เช้าวันนี้ครู จะออกเดินทางไปโรงเรียนพร้อมเด็ก ๆ ในหมู่บ้านซึ่งโรงเรียนที่ครูเข้าไปสอนนั้นห่างจากหมู่บ้านต้องเดินเท้า ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งโรงเรียนห้วยแม่เลี่ยมเป็นโรงเรียนขยายโอกาสมีถึงชั้น ม. 3 ถึงโรงเรียนครูบ้านนอกเข้าแถวเคารพธงชาติพร้อมเด็ก ๆ ที่โรงเรียน (เอ ! ครูคนไหนลืมเพลงชาติ บทสวดมนต์ไปบ้างแล้วเดี๋ยวได้รู้กัน) หลังจากเด็ก ๆ แยกย้ายกันเข้าห้องเรียนคณะครูบ้านนอกและครูประจำการก็ได้เวลาทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความคิดกัน ก่อนที่ครูบ้านนอกจะแยกย้ายกันเข้าสอนแต่ละชั้นเรียน เที่ยงแล้วก็ทานอาหารร่วมกับเด็ก ๆ ที่โรงเรียน ช่วงบ่ายเราแข่งขันกีฬา สร้างความสามัคคีกัน (มันส์มากกก)
เย็นย่ำเคารพธงชาติพร้อมเด็ก หลังเลิกเรียนก่อนเดินทางกลับบ้าน คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ครูและเด็กจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันรอบกองไฟ ชาวบ้านก็จะมีการเต้นรำแบบฉบับชนเผ่าอาข่าให้คณะครูบ้านนอกได้ชมได้ร่วมเต้น กัน ซึ่งการเต้นนี้ปรกติชาวบ้านจะเต้นเฉพาะช่วงเทศกาล หรือมีแขกสำคัญเท่านั้น ครูบ้านนอกได้สวมใส่ชุดประจำชนเผ่าอาข่ามาอวดโฉมกันด้วย หลังจากคืนนี้ไปไม่รู้อีกนานแค่ไหนที่เด็ก ๆ และชาวบ้านจะได้มีแขกมาเยือน มาร่วมแบ่งปันความสุขอีกครั้งหนึ่ง
หลังกองไฟในคืนนี้มอดลงมันคงเป็นสัญญาณแห่งการร่ำลานั้นเอง เช้าวันใหม่ก็มาถึงซึ่งถ้าเป็นไปได้ครูหลาย ๆ คนอยากให้โลกใบนี้หมุนช้าลงอีกสักนิดเพื่อที่จะอยู่กับเด็ก ๆ ในนานกว่านี้อีกแต่ไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้ “วันลา – วันจาก” ก็มาถึง ก่อนร่ำลาครูและเด็ก ๆ แลกเปลี่ยนสถานที่ติดต่อกันเพื่อเขียนเป็นจดหมายฉบับน้อย ๆ เล่าสารทุกข์สุขดิบกัน ก่อนแยกย้ายขึ้นรถเดินทางกลับ ไปทำภารกิจที่ครูบ้านนอกละทิ้งมา เด็กและชาวบ้านก็ทำหน้าที่ ของตนเองต่อไป ตราบใดที่โลกยังหมุนอยู่ครูและเด็ก ๆ ก็ยังมีกันและกันในความทรงจำตลอดไป